ข่าวกีฬา ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก

ข่าวกีฬา ประจำสัปดาห์มาถึงเกมบ็อกซิ่งเดย์ที่ถึงแม้จะมีเตะแค่ 7 คู่ทว่าก็มีบรรดาผู้เล่นที่ทำผลงานเยี่ยมจนติดเข้ามาในชุดนี้!!

ผู้รักษาประตู : โรแบร์โต้ ซานเชซ (ไบรท์ตัน) เบรนท์ฟอร์ด มีโอกาสโจมตี ไบรท์ตัน ด้วยลูกทุ่มไกล ทว่าทุกครั้งถูกปฏิเสธโดยนายด่านสแปนิชรายนี้ที่สื่อสารกับแนวรับได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ซานเชซ ยังโชว์ปฏิกิริยาสวย ๆ ได้ในช่วงครึ่งหลัง

กองหลัง : เอแมร์ซอน โรยัล (สเปอร์ส) ช่วงแรกในการมาเล่นเมืองผู้ดีดูเหมือนจะมีปัญหาในเรื่องการปรับตัว อย่างไรก็ดีถึงตอนนี้วิงแบ็กแซมบ้าทำผลงานได้ยอดเยี่ยม และมีชื่อแอสซิสต์ให้ ลูกัส มูร่า โขกทำประตู

กองหลัง : ดาวินซอน ซานเชซ (สเปอร์ส) ค่อย ๆ พัฒนาฟอร์มตัวเองดีขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคของ อันโตนิโอ คอนเต้ คุมเกมรับได้ดี และเรียกใบแดงได้จาก วิลฟรีด ซาฮา

กองหลัง : คีแรน เทียร์นี่ย์ (อาร์เซน่อล) กลับมายึดตำแหน่งตัวจริงให้ “เดอะ กันเนอร์ส” ได้อีกครั้ง และทำผลงานคงเส้นคงวา โดยเกมที่ แคร์โรว์ โร้ด แบ็กเลือดสกอตช์มีชื่อบนสกอร์บอร์ดอีกด้วย

กองกลาง : ลูกัส มูร่า (สเปอร์ส) ผลงานเฉิดฉายสุด ๆ มีส่วนร่วมกับทั้งสามประตูที่ สเปอร์ส ยิงใส่ คริสตัล พาเลซ

กองกลาง : เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน) ทำงานหนักมากบนแดนกลาง เป็นผู้เล่นของ “เดอะ เซนต์ส” ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในเกมบุกชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

กองกลาง : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้) เพลย์เมคเกอร์เบลเจี้ยนเบิกสกอร์แรกให้ ซิตี้ ออกนำ เลสเตอร์ จากทักษะอันเลิศล้ำ และโดยรวมที่อยู่ในสนาม เดอ บรอยน์ ขับเคลื่อเกมรุกได้ดีเอามาก ๆ

กองกลาง : มาร์ติน โอเดการ์ด (อาร์เซน่อล) มิดฟิลด์นอร์วีเจี้ยนกำลังเพลิดเพลินกับผลงานตัวเองในสีเสื้อ อาร์เซน่อล การสร้างสรรค์ของเขาทำให้ทีมได้สองประตูในเกมบุกพิชิต นอริช 5-0

กองหน้า : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แมนฯ ซิตี้) จัดการเบิ้ล 2 ประตู และทำให้ตลอด 4 นัดหลังสุดที่เจ้าตัวออกสตาร์ทตัวจริงในลีก ทำประตูได้ทุกนัด

กองหน้า : โรเมลู ลูกากู (เชลซี) ลุกจากม้านั่งสำรองลงมาสำแดงเดชใส่ แอสตัน วิลล่า เป็นสัญญาณที่ดีของ เชลซี ที่กำลังจะได้ตัวความหวังทำสกอร์เบอร์หนึ่งกลับมา

กองหน้า : บูกาโย่ ซาก้า (อาร์เซน่อล) บูกาโย่ ซาก้า เผาเครื่องใส่ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ แบ็กซ้าย นอริช จนไหม้ไม่เหลือซาก ซึ่งทั้งสองประตูที่ทำได้มาจากการลากตัดเข้าในแล้วซัดด้วยซ้ายส่งผลให้ “ไอ้ปืนใหญ่” กวาดชัยในลีกติดกัน 4 นัดแล้ว

ขอบคุณข่าว : https://www.siamsport.co.th/